Dynamic line rating sensor 6kv - 130kv | Ampacimon

0 - 99 ปี

รายละเอียด

วิธีการตรวจจับที่จดสิทธิบัตรนี้อาศัยการตรวจจับการสั่นสะเทือนทางกลความถี่ต่ำของสาย (เกิดจากลม, การพาความร้อน…) และใช้ค่าเหล่านั้นในการคำนวณระยะsag ของสาย หลักการของADR Sense อาศัยความสัมพันธ์โดยตรงที่เชื่อมโยงความถี่การสั่นสะเทือนพื้นฐานของตัวนำ เพื่อนำไปสู่ค่าsag ดังนั้นจึงไม่มีการ calibration, ไม่จำเป็นต้องรู้ข้อมูลตัวนำ ไม่จำเป็นต้องใช้โมเดลตัวนำ การวัด sag ถูกยืนยันความถูกต้องแล้วเพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานของอุปกรณ์นั้นปลอดภัยและทำงานได้อย่างถูกต้องตลอดเวลา ADR Sense สามารถให้ค่าอื่นๆที่สำคัญ คืออุณหภูมิและกระแสตัวนำ มันยัง วัดความเร็วลมซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญ: แน่นอนว่าลมเป็นพารามิเตอร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการกำหนดความสามารถในการรับโหลด (ถ้าพารามิเตอร์อื่น ๆ ทั้งหมดคงที่ การเพิ่มขึ้นของความเร็วลมจาก 0.5m / s เป็น 5m / s สายส่งสามารถรับโหลดได้เพิ่มเป็น 2 เท่า) อย่างไรก็ตามมันก็เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการวัดเพราะ: •ความเร็วลมต่ำ (โดยทั่วไป 5m / s) สำคัญที่สุดซึ่งความแม่นยำของเซ็นเซอร์ลมแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่นั้นไม่เพียงพอ •แม้แต่เซ็นเซอร์ที่แม่นยำที่สุดก็ยังต้องการการบำรุงรักษาและการสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีประสิทธิภาพ •ลม“ ที่มองเห็น” โดยตัวนำนั้นได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการผลกระทบของอาคารหุบเขาต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งสามารถทำให้การวัดอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ผลและอาจเป็นอันตรายหากใช้ในการคำนวณ ampacity ความเร็วลมที่คำนวณโดย ADR Sense นั้นจะใช้ทิศทางลมที่ตั้งฉากกับสายส่ง นั่นคือส่วนประกอบที่จะนำมาพิจารณาสำหรับการคำนวณ ampacity มันถูกวัดด้วยอัลกอริทึมที่ได้รับสิทธิบัตรซึ่งทำการวิเคราะห์การสั่นสะเทือนของเส้นและคำนวณส่วนประกอบของความเร็วลมที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน(“aoelian vibrations” สำหรับความเร็วลมต่ำหรือการวิเคราะห์คลื่นแรงสั่นสะเทือนสำหรับความเร็วลมสูงขึ้น ความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นจะได้มาจากการวัดค่า sag ของสาย และความเร็วลมที่ ดำเนินการโดย ADR Sense ซึ่งจะมีความสำคัญเป็นพิเศษเมื่อพิจารณาในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน (ป่าไม้, สิ่งกีดขวาง ฯลฯ ... ) ซึ่งยังเป็นการพิจารณาค่าclearance ของสายส่งกับgroud (sag), ค่าอุณหภูมิสูงสุดของสาย ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญอีกด้วย